พระชาย
วรธัมโม
คมชัดลึก 25
ธันวาคม 2556
Email : shine6819[@]gmail.com
Countdown เป็นหนังที่เข้าฉายสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคมปีที่แล้วเพื่อต้อนรับเทศกาลเคาท์ดาวน์นับถอยหลังจากปีเก่าไปสู่ปีใหม่
หนังเรื่องนี้มีการนำเอาคำสอนเรื่องการสารภาพบาปของคริสเตียนมาใส่ไว้ในหนังได้อย่างน่าสนใจ
แจ็ค แพม บี สามวัยรุ่นไทยใช้ชีวิตเป็นนักเรียนนอกในนิวยอร์คแชร์ห้องอยู่ด้วยกันเกิดอยากจะหาอะไรทำสนุกๆ
ในคืนส่งท้ายปีเก่าด้วยการนัดซื้อยาทางโทรศัพท์กับพ่อค้ายาชื่อ เฮซุส โดยเฮซุสจะนำยามาส่งให้ถึงห้อง
แต่เรื่องสนุกก็กลับกลายเป็นเรื่องสยองขวัญสั่นประสาทเมื่อพ่อค้ายากลับกลายเป็นฆาตกรโรคจิตที่พยายามฆ่าวัยรุ่นเคราะห์ร้ายทั้งสามในคืน Countdown เหตุการณ์นี้จะทำให้ชีวิตของเด็กทั้งสามคนเปลี่ยนไปตลอดกาล
ความสยองขวัญเริ่มต้นหลังจากที่เฮซุสยื่นกัญชาให้ทั้งสามคนเสพจนเมาได้ที่
จากนั้นเฮซุสก็เริ่มบังคับให้วัยรุ่นทั้งสามคนสารภาพบาปที่แต่ละคนเคยทำไว้เพื่อชำระดวงวิญญาณให้สะอาดก่อนเดินทางไปสู่สวรรค์ด้วยการยิงศีรษะทีละคน
แจ็คสารภาพว่าเขาโกหกพ่อว่าเขาเข้ามหาวิทยาลัยแล้วแต่แท้ที่จริงคือเขาทำตัวสนุกไปวันๆ
ส่วนแพมสารภาพว่าเธอเอาเงินที่แม่ส่งมาให้เรียนหนังสือไปช็อปปิ้งจนหมดแล้วยังขโมยเงินเพื่อนไปใช้อีกต่างหาก ทั้งแจ็คและแพมยังต้องสารภาพต่อหน้าบีว่าทั้งสองแอบมีอะไรกันทั้งๆ
ที่แจ็คเป็นแฟนกับบี ในขณะที่บาปของบีคือการขับรถชนรถยนต์คันหนึ่งตายยกครอบครัว
เธอจึงต้องหนีมาอยู่เมืองนอกแล้วปล่อยให้พ่อซึ่งเป็นนักการเมืองที่มีอำนาจจัดการหาแพะรับบาปให้
ถ้ามองในแง่คำสอนของพุทธก็คือวัยรุ่นทั้งสามคนกำลังทำผิดศีล ๔ ข้อ คือ
ฆ่าคนตาย, ลักทรัพย์, ประพฤติผิดในกาม, พูดเท็จ โดยมีการเสพกัญชาเป็นการผิดศีลข้อสุดท้ายครบ
๕ ข้อพอดี เมื่อวัยรุ่นทั้งสามสารภาพบาปเสร็จเฮซุสก็จัดการส่งวิญญาณไปสวรรค์ทีละคนด้วยลูกปืน
เหลือบีเพียงคนเดียวที่รอดชีวิต
รุ่งขึ้นวันปีใหม่ ๑ มกราคม หนุ่มสาวทั้งสามตื่นขึ้นมาพบว่าพวกเขายังมีชีวิตอยู่
แค่เนื้อตัวร่างกายมีรอยฟกช้ำดำเขียวสะบักสบอมเท่านั้นเอง
พวกเขาต่างงุนงงว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเป็นความฝันหรือความจริง หรือพวกเขาแค่เมายากันไปเอง
เมื่อได้สติรู้สึกตัวแจ็ครีบโทรศัพท์กลับไปสารภาพกับพ่อว่าตนเองยังไม่ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
แท้จริงเขาเอาแต่สนุกไปวันๆ แล้วกล่าวคำขอโทษพ่อ ส่วนแพมโทรไปสารภาพบาปกับแม่และขอโทษแม่ที่เอาเงินที่แม่ส่งมาให้เรียนหนังสือไปช็อปปิ้งจนหมดแล้วยังขโมยเงินเพื่อนไปใช้
ส่วนบาปของบีเธอไม่สามารถโทรไปสารภาพกับใครได้
ทางเดียวที่เธอต้องทำคือกลับไปชดใช้กรรมที่ทำไว้ที่เมืองไทยด้วยการมอบตัวกับตำรวจในคดีชนแล้วหนีซึ่งในที่สุดเธออาจจะต้องเข้าไปอยู่ใน
“บ้านเมตตา” อย่างที่เธอบอกกับเพื่อนทั้งสองไว้ จะด้วยความจงใจของคนเขียนบทหรือไม่ก็ตาม
บาปของบีที่ขับรถชนแล้วหนีสะท้อนเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงเมื่อเดือนธันวาคม ปี
๒๕๕๓ กรณีสาวรุ่นวัย ๑๗
ขับรถชนรถตู้บนทางด่วนทำให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งย่านรังสิตเสียชีวิตทันที
๘ ศพ แตกต่างกันตรงที่กรณีของบีเปลี่ยนเป็นตายยกครอบครัว ๔ ศพ
พ่อค้ายาเฮซุสก็มีอะไรหลายอย่างที่น่าสงสัยไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ที่ดูคล้ายพระเยซูที่มาพร้อมกับคัมภีร์ไบเบิ้ลอยู่ในมือ
แสงสว่างที่ฉายทาบบนเพดานเหนือศีรษะของเขาที่ดูคล้ายกับแสงออร่าของศาสดาเจ้าลัทธิ เฮซุสรู้ว่าเด็กทั้งสามคนมีบาปอะไรซ่อนเร้นราวกับเขาเป็นพระเจ้าที่รู้ไปหมดเสียทุกอย่าง
แม้แต่คำพูดของเขาที่พูดว่า “ใครทำตัวไม่ดีก็ต้องมีคนจัดการ
มันเป็นกฎของพระเจ้า หากมนุษย์ทำตัวไม่ดีก็ต้องรับกรรม ต้องเจอกับภูเขาไฟระเบิด
แผ่นดินไหว สึนามิ แต่พระเจ้าก็ทำไปด้วยความรัก” ก็ยิ่งทำให้รู้สึกว่าตัวละครเฮซุสมีอะไรบางอย่างคล้ายกับศาสดาพยากรณ์ในศาสนาคริสต์ มีคนตั้งข้อสังเกตว่าฉากที่บีเอาปืนยิงโดนฝ่ามือของเฮซุสก็คล้ายกับตอนที่พระเยซูถูกตะปูตอกบนฝ่ามือตรึงอยู่บนไม้กางเขน ในขณะที่มีผู้รู้บอกว่า
Jesus
ออกเสียงได้ทั้งจีซัสและเฮซุส ชาวยิวโบราณก็ออกเสียงว่าเฮซุสซึ่งหมายถึงพระเจ้า การปรากฏตัวของเฮซุสจึงดูน่าสงสัยว่าเฮซุสเป็นใคร
เป็นพระเจ้าหรือเป็นพ่อค้ายาคลั่งศาสนาสติฟั่นเฟือนที่รอคอยเหยื่อที่หลงโทรเข้ามาแล้วสั่งสอนให้สารภาพบาปแบบรุนแรง เฮซุสมีบุคลิกที่ไม่น่าไว้ใจ
มีอารมณ์ขันที่แฝงไว้ด้วยความน่ากลัว อารมณ์แปรปรวนง่าย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ชอบการทรมานสัตว์
และยิ่งไม่น่าไว้ใจมากขึ้นเมื่อเฮซุสพูดไทยออกมา นั่นยิ่งทำให้หนุ่มสาวทั้งสามเริ่มรู้แล้วว่าชีวิตของพวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย
แต่ก็สายเกินไปเสียแล้ว
ปืนยิงตะปูในหนังเรื่องนี้ก็มีนัยยะแฝงเร้น ตะปูเป็นอุปกรณ์ที่คนยิวโบราณใช้ตอกมือเพื่อลงโทษคนบาปแล้วตรึงร่างไว้บนไม้กางเขนเหมือนอย่างที่พระเยซูโดนกระทำ
ปืนยิงตะปูในหนังเรื่องนี้จึงไม่ได้โผล่ขึ้นมาลอยๆ แต่เป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายซ่อนเร้นเกี่ยวข้องกับการลงโทษคนบาปซึ่งหมายถึงแจ็ค
แพม บี แม้ว่าปืนยิงตะปูในหนังจะดูไฮเทคไปตามยุคสมัยก็ตาม
เลข ๑๓ ถือเป็นตัวเลขแห่งความโชคร้าย ในหนังนำตัวเลขนี้มาใช้
เมื่อแจ็คไปเจอนามบัตรของพ่อค้ายาที่ถูกฉีกทิ้งไว้
แต่หมายเลขโทรศัพท์ตัวสุดท้ายขาดหายไป พวกเขาจึงเดาว่าเป็นเลข ๑๓ ทำให้โชคร้ายไปเจอกับพ่อค้ายาคลั่งศาสนาโดยตัวเลขที่หายไปคือหมายเลข
๑๘ อพาร์ทเม้นท์ที่พวกเขาอยู่คือหมายเลข ๑๓๐๖ ชั้นที่ ๑๒A ซึ่งก็คือชั้นที่
๑๓ ในอเมริกาจะหลีกเลี่ยงเลข ๑๓ ด้วยการใช้เลข ๑๒A แทน และปีที่เกิดเหตุการณ์ในหนังคือปี ๒๐๑๓
ประเด็นที่พูดถึงกันมากสำหรับตอนจบของหนังเรื่องนี้ก็คือ
สิ่งที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นทั้งสามคนในคืนส่งท้ายปีเก่าคืออะไรกันแน่ ฝันร้ายหรือประสาทหลอนจากการเสพยาหรือว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ
สำหรับผู้เขียนแล้วจะเป็นอะไรก็ได้แต่ก็สามารถวิเคราะห์ได้ว่าการจบแบบหักมุมของหนังเรื่องนี้มีการอิงกับเรื่องราวการฟื้นคืนชีพของพระเยซูหลังถูกตรึงบนไม้กางเขน
วัยรุ่นทั้งสามฟื้นขึ้นมาในเช้าวันที่ ๑ มกราคม ถือเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่
นั่นหมายความว่าวัยรุ่นทั้งสามอาจจะฟื้นคืนชีวิตเหมือนกับที่พระเยซูฟื้นคืนชีพหลังจากถูกตรึงบนไม้กางเขนก็ได้
แล้วนำไปสู่การสารภาพบาปกับพ่อแม่เพื่อกลับตัวเป็นคนดี ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วง
๑๐ นาทีสุดท้ายของหนังที่พยายามพูดถึงการสารภาพบาปและการยอมรับผิดของวัยรุ่นทั้งสามคนอันนำไปสู่การเริ่มต้นชีวิตใหม่
เชื่อว่ามีวัยรุ่นหลายคนทีเดียวอาจจะรักสนุกมากจนบางครั้งทำบาปกับพ่อแม่ด้วยการหลอกเอาเงินพ่อแม่ไปเที่ยวเล่นในขณะที่พ่อแม่ต้องทำงานหนักส่งเงินให้ลูกเรียนหนังสือ
การทำเช่นนี้ถือเป็นการทำบาปกับพ่อแม่อย่างร้ายกาจทีเดียว เมื่อเราหลอกลวงท่านก็เท่ากับเรากำลังทรยศบุคคลที่มีบุญคุณกับเรามากที่สุดในโลกคนหนึ่ง
การสารภาพบาปแล้วกลับตัวเป็นลูกที่ดีถือเป็นการไถ่บาปที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราหลุดพ้นจากผลบาปที่เราได้ก่อไว้กับผู้บังเกิดเกล้า
หรืออาจมีบางคนกำลังตกที่นั่งเดียวกับบี
อาจจะด้วยความคึกคะนอง จะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่ขอให้รู้ไว้ว่าเมื่อใดที่ท่านสำนึกได้ว่ามีผู้ที่กำลังเดือดร้อนจากผลการกระทำของท่านจำนวนมาก
แล้วท่านแก้ไขตัวเองกลับไปยอมรับผิดที่บ้านเกิดเมืองนอนของท่าน เมื่อนั้นท่านกำลังไถ่บาปให้กับตัวเองโดยไม่ต้องมีใครมาช่วยไถ่บาปสะเดาะเคราะห์ให้กับท่าน
เหมือนกับที่เฮซุสก็ไม่ได้มาช่วยไถ่บาปให้กับวัยรุ่นทั้งสามคน
แต่เฮซุสมาช่วยให้วัยรุ่นทั้งสามคนสำนึกผิดและเปลี่ยนแปลงแก้ไขตัวเอง
เคาท์ดาวน์อาจไม่ใช่ช่วงเวลาแห่งการนับถอยหลังเพื่อก้าวเข้าสู่ปีใหม่เท่านั้น
แต่เคาท์ดาวน์ในอีกความหมายหนึ่งคือการย้อนกลับไปทบทวนความผิดพลาดที่คุณทำไว้ในอดีต
แล้วปรับเปลี่ยนแก้ไขพฤติกรรมเสียใหม่ก่อนจะสายเกินไป
เหมือนอย่างที่เฮซุสพูดทิ้งท้ายไว้ว่า
“ทำตัวดี ๆ ไม่งั้นปีหน้าเจอกัน”
.