คมชัดลึก
วันพระ (พุธ) 14 สิงหาคม 2556
พระชาย วรธัมโม เขียน
ในบ้านเรามีข่าวพระทำผิดเรื่องเพศปรากฏให้เห็นในสื่อบ่อยๆ
มีข่าวลักษณะนี้เกิดขึ้นแต่ละครั้งปฏิเสธไม่ได้ว่ามีผลกระทบกับศรัทธาความเลื่อมใสของชาวพุทธไม่น้อย
ชาวพุทธบางท่านรู้สึกเสื่อมศรัทธาหยุดใส่บาตรไปเลยก็มี
ผู้เขียนศึกษาอยู่ที่
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) วังน้อย อยุธยา คณะพุทธศาสตร์
อินเตอร์เนชั่นแนล ที่นี่เรามีเพื่อนภิกษุมาจากประเทศต่างๆ มากมาย เราพูดคุยกันถึงประเด็นข่าวพระในสื่อ
สิ่งหนึ่งที่เพื่อนภิกษุพูดเป็นเสียงเดียวกันก็คือ ‘ประเทศไทยมีภาพลักษณ์เป็นเมืองพุทธที่สวยงามแต่เวลามีข่าวพระทำผิดเหตุใดจึงมีการประจานข่าวในสื่อกันอย่างโจ่งแจ้งทั้งในโทรทัศน์
หนังสือพิมพ์และอินเตอร์เน็ตแบบไม่มีการให้เกียรติกันเลย’
นี่เป็นน้ำเสียงของพระภิกษุต่างชาติที่แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์พุทธศาสนาในบ้านเรา
แต่ละท่านแสดงความเห็นว่าที่ประเทศบ้านเกิดของท่านก็มีพระประพฤติผิดทางเพศเช่นกันเพราะพระก็ยังเป็นมนุษย์ปุถุชน
เพียงแต่กระบวนการจัดการจะไม่มีการปล่อยให้สื่อลงข่าวประจานกันไปทั่วประเทศแบบนี้
ท่านบุญลี เชร็ง (Ven.
Bunly Chhreng) พระเพื่อนชาวกัมพูชาเล่าว่าที่กัมพูชากรณีพระประพฤติล่วงละเมิดวินัยทางเพศ
พระผู้ใหญ่จะเข้าไปตรวจสอบ หากมีความผิดจริงก็จะให้สึก และจะไม่มีการให้สื่อเข้าไปทำข่าว
ท่านอะดิจจะ (U Ardicca) เพื่อนพระชาวไทยใหญ่จากรัฐฉานเล่าว่าประเทศพม่าประกอบด้วยหลายรัฐหลายเชื้อชาติ
แต่เวลามีพระกระทำผิดเรื่องเพศโดยรวมแล้วมีวิธีการปฏิบัติเหมือนกันคือพระผู้ใหญ่จะเข้าไปตรวจสอบ
หากผิดจริงก็จะให้สึกและจะไม่มีการให้สื่อเข้าไปทำข่าว เพราะชาวพม่ารู้ดีว่าข่าวแบบนี้เสนอไปก็ไม่เป็นประโยชน์กับสาธารณะ
มีแต่จะทำให้ชาวพุทธเสื่อมศรัทธาลงไป
ท่านวันกวางกึง (Ven. Van Quang Cuong) เพื่อนพระชาวเวียดนามเล่าว่ากรณีพระประพฤติล่วงละเมิดวินัยทางเพศ
คณะสงฆ์เวียดนามมีกระบวนการจัดการภายในกันเองจะไม่ให้ตำรวจหรือฆราวาสเข้ามายุ่งเกี่ยว
หากมีความผิดก็ให้สึกพร้อมกับมีการควบคุมไม่ให้เป็นข่าวในสื่อ
ท่านแอริค อวาเล (Ven. Eric
Awale)
เพื่อนพระชาวเนปาลเล่าว่าในกรณีมีพระประพฤติล่วงละเมิดทางเพศ
พระผู้ใหญ่จะเข้าไปจัดการไต่สวนหาความจริงหากมีความผิดก็ให้สึก ส่วนหนังสือพิมพ์จะลงข่าวเพียงเนื้อความสั้นๆ
ไม่ถูกนำมาประจานขึ้นหน้าหนึ่งและไม่มีการเผยแพร่ภาพพระผู้กระทำผิด
ท่านธรรมรักขิตะ (Ven.
Dhammarakita) เพื่อนพระชาวศรีลังกาเล่าให้ฟังว่าที่ศรีลังกากรณีพระประพฤติล่วงละเมิดวินัยทางเพศพระผู้ใหญ่จะเข้าไปตรวจสอบ
หากมีความผิดจริงก็ให้สึกไปตามระเบียบ ส่วนสื่อเองก็มีจรรยาบรรณคล้ายๆ กับประเทศเนปาลคือจะลงข่าวเพียงตัวหนังสือสั้นๆ
ที่ด้านในของหนังสือพิมพ์ ไม่มีการนำภาพของพระที่ประพฤติล่วงละเมิดมาลงประจาน
สรุปได้ว่าแต่ละประเทศมีวิธีการจัดการแบบเดียวกันคือเป็นการจัดการภายในไม่ให้เป็นข่าว
มีเพียงสองประเทศเท่านั้นที่ลงข่าวคือเนปาลกับศรีลังกาและเป็นเพียงข่าวเล็กๆ
ไม่มีการนำภาพของพระผู้กระทำผิดมาลงประจาน ผู้เขียนถามว่าแล้วกรณีเป็นพระมีชื่อเสียงมีลูกศิษย์คอยปกป้องกรณีแบบนี้มีบ้างไหม
ท่านพุทธะวัมสา (Ven.
Buddhavamsa)
พระภิกษุชาวอาระข่านรัฐระไคน์ (Rakhine State ) ประเทศพม่าบอกว่าที่นี่ก็มีเหมือนกัน หลายปีก่อนพระมีชื่อเสียงในพม่ารูปหนึ่งมีเรื่องชู้สาว
ลูกศิษย์พยายามปกป้องช่วยเหลือจนพระรูปนั้นหลบหนีออกไปอยู่นอกประเทศ ก็มีเหมือนกันไม่ใช่ไม่มี
ผู้เขียนมองคล้ายๆ เพื่อนภิกษุคือประเทศไหนก็มีพระกระทำผิดทางเพศด้วยกันทั้งนั้นเพราะพระก็ยังเป็นมนุษย์
เพียงแต่ว่าอยู่ที่กระบวนการจัดการภายในขององค์กรสงฆ์ประเทศนั้นๆ ว่าจะมีวิธีการจัดการอย่างไร
ลำพังองค์กรสงฆ์คงไม่ปรารถนาให้ข่าวพระแพร่กระจายไปในสื่อเพราะรู้ดีว่าข่าวแบบนี้แพร่ออกไปก็ไม่เป็นผลดีกับใครเลย
คงไม่มีองค์กรสงฆ์ประเทศไหนอยากสาวไส้ให้กากิน
กรณีนี้ทำให้นึกถึงประเทศญี่ปุ่น
ที่นี่ไม่มีการนำภาพคนตายมาเผยแพร่ให้เห็นในสื่อเพราะภาพคนตายทำให้เกิดผลกระทบที่รุนแรงต่อผู้เสพข่าว
หากคนในสังคมเสพข่าวที่รุนแรงทุกวันย่อมส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมโดยรวมของคนในสังคม อาจทำให้คนเกิดภาวะสิ้นหวังซึมเศร้า
นี่เป็นสิ่งที่คนทำสื่อในต่างประเทศให้ความสำคัญและรับผิดชอบ
สื่อมวลชนในประเทศญี่ปุ่นจึงงดการเผยแพร่ภาพคนตายด้วยเหตุนี้
กลับมาที่การนำเสนอข่าวพระในสังคมไทย
ข่าวพระเป็นข่าวที่ทำให้ผู้คนตกอยู่ในภาวะซึมเศร้าและสิ้นหวังได้เช่นกัน ประเทศต่างๆ
จึงงดการนำเสนอข่าวพระที่กระทำผิดทางเพศเพราะภาพและเนื้อหาของข่าวจะช็อคความรู้สึกของผู้คนอย่างแรง
หากมีการเสนอข่าวเช่นนี้ซ้ำๆ ย่อมส่งผลกระทบกับจิตใจของผู้คน นี่เป็นประเด็นที่น่าคิดสำหรับการเสนอข่าวพระของสื่อในสังคมไทยที่สื่อมวลชนควรหันกลับมาทบทวนวิธีการเสนอข่าวกันใหม่
จากการที่ผู้เขียนสัมภาษณ์เพื่อนพระชาวต่างชาติทำให้เห็นภาพของผลกระทบรุนแรงที่มีต่อสภาวะจิตของผู้คนทำให้โยมบางคนไม่ใส่บาตร
ข่าวร้ายเป็นเรื่องอ่อนไหวที่มีผลกระทบง่ายดาย สื่อมวลชนควรหันกลับมาใส่ใจผลกระทบของผู้คนกับกรณีการเสนอข่าวพระในสื่อก่อนจะสายเกินไป
แม้พระพุทธองค์ยังได้วางวินัยบัญญัติไว้เช่นกันว่า
‘ภิกษุบอกอาบัติชั่วหยาบของภิกษุอื่นแก่คฤหัสถ์ ต้องอาบัติปาจิตตีย์’ นั่นหมายความว่าพระองค์ไม่สนับสนุนให้ภิกษุนำเรื่องไม่ดีในสงฆ์ไปเผยแพร่ออกสู่ภายนอกเพราะเล็งเห็นความเสื่อมศรัทธาที่อาจเกิดขึ้นได้
แม้คฤหัสถ์ชาวพุทธก็ควรตระหนักรู้ถึงวินัยบัญญัติข้อนี้เช่นกันว่าควรเผยแพร่สิ่งใดไม่ควรเผยแพร่สิ่งใด
การเรียกชื่อพระที่กระทำผิดในสื่อก็มีการเรียกชื่อจิกหัวกันแรงๆ
ตอนที่ยังไม่ได้ทำผิดก็เรียกพระอาจารย์ ครั้นทำผิดคำเรียกขานก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนราวกับว่าบุคคลคนนี้ไม่มีความดีอะไรหลงเหลืออีกแล้ว
ไม่เหลือแม้แต่ศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ เราไม่จำเป็นต้องซ้ำเติมคนที่ล้มลงไปขนาดนั้นก็ได้
เพียงแค่เรามองเห็นว่าทุกคนต่างก็เป็นมนุษย์เหมือนกัน มีโลภโกรธหลง มีผิดพลาด
มีทุกข์ มีเจ็บปวดเหมือนกัน เราเพียงแต่รับรู้ว่ามีพระที่ทำผิดเกิดขึ้น กระบวนการทางสังคมที่มีอยู่จะจัดการตัวมันเอง
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๘
เป็นปีที่ท่านติชนัทฮันห์ได้กลับไปเหยียบแผ่นดินเกิดคือเวียดนามเป็นครั้งแรกในรอบ
๓๙ ปี เมื่อท่านกลับไปชาวเวียดนามรายงานให้ท่านทราบว่ามีพระอาจารย์บางรูปประพฤติล่วงละเมิดวินัยทางเพศ
ท่านจึงบรรยายให้ชาวพุทธในเวียดนามได้มีสติกับเรื่องนี้ว่า
“เจ้าอาวาสคือผู้สืบทอดจากพระเถระองค์ก่อนๆ
ทุกอณูเซล หากอาจารย์ทำผิดทางเพศเราควรช่วยเหลือท่านให้หลุดพ้นจากความผิดด้วยการไม่ประณาม
ไม่ตำหนิติเตียนอาจารย์ แต่เห็นว่าทุกคนต่างก็ยังมีความไม่สมบูรณ์
มีความทุกข์เผารนอยู่ ฉันเห็นข้ออ่อนของเธอ เธอเห็นข้ออ่อนของฉัน
อาจารย์เห็นข้ออ่อนของลูกศิษย์ ลูกศิษย์เห็นข้ออ่อนของอาจารย์ เราต่างเห็นข้ออ่อนด้อยของกันและกัน
ฉันจากไปเกือบ ๔๐ ปี คนที่อายุต่ำกว่า
๔๐ ต่างก็เป็นลูกหลานของฉัน
ถ้าเธอสามารถเรียนรู้การปฏิบัติอย่างที่ฉันกำลังทำอยู่จะเป็นการสร้างการสืบสายขึ้นมาใหม่
มันจะช่วยแก้ไขความขัดแย้งและความทุกข์ได้ มันจะค่อยๆ ซึมซับอยู่ในสายเลือด ถึงแม้ท่านจะไม่ดีเราก็ควรกราบท่านในฐานะที่ท่านไม่มีโอกาสรดน้ำให้กับเมล็ดพันธุ์ที่ดี
ท่านอาจจะไม่มีอาจารย์ที่ดีคอยสอนหรือคอยสนับสนุนให้เมล็ดพันธุ์ที่ดีเกิดการเจริญเติบโตขึ้นภายใน
เมื่อนั้นเราจึงเห็นข้ออ่อนของพ่อแม่ เห็นข้ออ่อนของครูบาอาจารย์ ถึงอย่างไรเราก็ยังสามารถที่จะรักพ่อรักแม่ที่ทำผิดของเราได้
รักครูบาอาจารย์ที่ทำผิดของเราได้ ถ้าเราสามารถเห็นความทุกข์ของท่านเราจะสามารถช่วยท่านได้และมันสามารถช่วยเยียวยาตัวเราเองด้วย”
บางทีคำสอนของท่านติชนัทฮันห์ในเรื่องนี้น่าจะทำให้เราหันกลับมามีสติและสามารถเข้าใจพระที่ทำผิดได้มากขึ้นว่าท่านก็ยังมีความไม่สมบูรณ์และถูกความทุกข์เผารนอยู่...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น