วันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2555

แกะ เปลือก แม่


กรุงเทพธุรกิจ , สนามวิจารณ์ , อังคาร 14 สิงหาคม 2555 

(เกริ่น : บทความนี้เขียนไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ยังไม่ได้เอาไปลงที่ไหน พอดีถึงเทศกาลวันแม่ปีนี้ ก็เลยเอามาเกลาใหม่ แล้วส่งไปที่ กรุงเทพธุรกิจ ก็เลยได้ลง ด้วยประการฉะนี้)



ผู้เขียนเองบ่อยครั้งก็รู้สึกสับสนไปกับคุณค่าและความหมายที่สังคมไทยมีให้กับผู้หญิงไทย ยกตัวอย่างถ้าบ้านใดมีลูกสาวก็จะมีคำเปรียบเปรยว่า มีลูกสาวเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน  ซึ่งฟังดูไม่ค่อยให้เกียรติสถานะของลูกสาวสักเท่าไร หรือไม่ก็มีคำพูดเหน็บแนมว่า ผู้หญิงข้าวสาร ผู้ชายข้าวเปลือก หมายความว่าข้าวสารตกถึงพื้นดินก็สกปรกเอาไปใช้ทำประโยชน์อะไรไมได้ แต่ถ้าเป็นข้าวเปลือกหากไปตกหล่นที่ไหนก็มีแต่จะงอกงามออกมาเป็นต้นกล้า อุปมาเปรียบเหมือนผู้ชายไปไหนมีแต่ได้ ในขณะที่ผู้หญิงไปไหนมีแต่เสีย นั่นเป็นความหมายที่สังคมไทยมีให้กับหญิงไทย

แต่พอถึงวันที่ ๑๒ สิงหาคม ซึ่งถูกกำหนดให้เป็น วันแม่แห่งชาติ เพศหญิงก็ถูกเทิดทูนเสียจนเราแทบจะลืมคำเหน็บแนมต่างๆ นานาเหล่านั้นไปเสียสิ้น หรือว่านี่คือการ ตบหัวแล้วลูบหลังของสังคมไทยที่กระทำต่อผู้หญิง 

แต่การ ลูบหลัง ที่สังคมไทยกระทำกับผู้หญิงก็ยังมีอะไรที่ควรเข้าไปสำรวจตรวจสอบเมื่อการลูบหลังผู้หญิงเป็นการนำเอาผู้หญิงกับ ความเป็นแม่ มาปรุงแต่งผสมรวมกัน ทั้งๆ ที่สองคำนี้อาจจะเป็นคนละเรื่องกันก็ได้

ที่ผู้เขียนพูดเช่นนี้ก็เพราะผู้หญิงก็คือมนุษย์คนหนึ่งที่มีทั้งด้านดีและด้านเลวปะปนอยู่ในคนๆ เดียวกัน ในขณะที่ ความเป็นแม่ เป็นคุณสมบัติที่สังคมประดิดประดอยหรือสร้างขึ้นมาเพื่อมอบให้ผู้หญิงแล้วคาดหวังให้ผู้หญิงต้องมีความเป็นแม่ นั่นหมายความว่าในทางปฏิบัติผู้หญิงถูกคาดหวังให้ต้องมีสามี ต้องมีลูก แต่ความเป็นจริงก็คือไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนจะสามารถทำเช่นนั้นได้

ในโลกของความเป็นจริงมีผู้หญิงบางคนคลอดลูกออกมาแล้วรู้ตัวว่าไม่สามารถจะเลี้ยงลูกได้ก็ทิ้งลูกไว้ที่กองขยะ บางคนคลอดลูกปุ๊บก็ทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลทันที ผู้หญิงบางคนทิ้งลูกไว้ให้สามีเลี้ยงหรือไม่ก็ทิ้งลูกไว้ให้พ่อแม่เลี้ยงแล้วก็ไปมีสามีใหม่ ผู้หญิงบางคนก็ตัดสินใจทำแท้ง หรือถ้าไม่ทำแท้งก็เลี้ยงลูกด้วยความรุนแรงมีการตบตีลูกอย่างไม่ปรานี 







         ผู้หญิงบางคนต้องการสามีมากกว่าจะต้องการลูก ผู้หญิงบางคนมีหลายสามีในเวลาเดียวกัน ผู้หญิงบางคนต้องการมีอะไรกับใครโดยไม่ต้องการมีพันธะ ผู้หญิงบางคนจึงไม่ต้องการเป็นเมียและไม่ต้องการเป็นแม่ใคร ผู้หญิงบางคนก็พึงพอใจที่จะอยู่กินกับผู้หญิงด้วยกัน ในขณะที่บางคนก็พอใจที่จะอยู่เป็นโสด 

เราจะเห็นได้ว่าแท้จริงแล้วในสังคมไทยมีผู้หญิงหลายประเภทและหลายคนทีเดียวที่ไม่ได้ทำหน้าที่แม่อย่างที่สังคมคาดหวัง ดังนั้นเราพอจะเริ่มมองเห็นชัดขึ้นแล้วหรือยังว่าผู้หญิงกับความเป็นแม่นั้นเป็นคนละเรื่องกัน

ความเป็นแม่เป็นอาการผสมปรุงแต่ง ถูกผลิตและให้ความหมายขึ้นมาโดยสังคม เป็นความคาดหวังมากกว่าจะเป็นความจริงเพราะไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะรับบทบาทความเป็นแม่ได้ ความเป็นแม่เป็นคุณลักษณะที่เป็นกันได้ยาก กล่าวคือหากมีสุภาพสตรีสักคนอยากจะรับบทบาทการเป็นแม่ขึ้นมา สุภาพสตรีท่านนั้นต้องเป็นผู้หญิงที่มีสามีเป็นตัวเป็นตน สามารถอุ้มท้องได้นาน 9 เดือนโดยไม่ทำแท้งเสียก่อน เมื่อคลอดลูกออกมาก็สามารถเลี้ยงดูลูกให้เติบใหญ่จนกว่าลูกจะดูแลตัวเองได้ นั่นหมายความว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20 ปีทีเดียวกว่าลูกจะดูแลตัวเองได้ซึ่งระหว่างนั้นความอดทนที่จะเป็นแม่อย่างสมบูรณ์แบบของสุภาพสตรีท่านนั้นอาจจะขาดผึ่งขึ้นมาเมื่อไรก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุภาพสตรีท่านนั้นก็ต้องมีปัจจัยสี่เพียงพอที่จะเลี้ยงดูลูกให้เติบใหญ่ได้ การเป็นแม่จึงไม่ใช่เรื่องที่จู่ๆ ผู้หญิงจะลุกขึ้นมาเป็นกันได้ทุกคน
 
ที่สำคัญการจะเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบอีกปัจจัยหนึ่งก็คือต้องอาศัยสามีที่มีความเสียสละ หากไม่มีสามีที่มีความเสียสละคอยดูแลเอาใจใส่ ผู้หญิงที่ต้องการจะเป็นแม่ท่านนั้นก็อาจจะเป็นแม่ด้วยความยากลำบากยิ่งขึ้น เพราะการเลี้ยงลูกไม่ใช่อะไรที่ง่ายดายแต่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมจากสามีมาช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อซื้อนมซื้อผ้าอ้อมให้ลูกน้อย การเป็นแม่ลูกอ่อนคงไม่สามารถเอาเวลาไปทำงานหาเงินเพื่อเอามาเลี้ยงลูกได้ ลำพังการพักฟื้นหลังคลอดก็ต้องหมดเวลาไปกับการเยียวยาร่างกายหลังคลอดและการดูแลเอาใจใส่ลูก ภาวะเช่นนี้จะเอาเวลาที่ไหนไปทำงานหาเงิน คงต้องอาศัยสามีที่เสียสละทำหน้าที่ออกไปทำงานหาเงินนอกบ้าน ใช่ว่าสามีที่ดีในสมัยนี้จะหาได้ง่ายๆ สามีจำนวนไม่น้อยมักจะเลิกราแล้วทิ้งให้ผู้หญิงต้องเลี้ยงลูกโดยลำพังหรือไม่ก็เร่ร่อนขอทานอยู่ตามท้องถนนกับลูกน้อย การเป็นแม่จึงไม่ใช่บทบาทที่จะเป็นกันได้ง่ายนัก

จึงเป็นไปได้ว่าทุกครั้งที่มีการเฉลิมฉลองวันแม่แห่งชาติในวันที่ ๑๒ สิงหาคมของทุกปี มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองได้รับการเฉลิมฉลองสดุดีไปด้วย พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือผู้หญิงจำนวนมากไม่ได้รู้สึกมีส่วนร่วมไปกับการเฉลิมฉลองวันแม่แห่งชาติดังกล่าว รวมทั้งไม่ได้รู้สึกว่าตนเองต้องรับบทบาทความเป็นแม่อย่างที่สังคมคาดหวังและเฉลิมฉลองให้ เพราะการเป็นแม่เป็นเรื่องยากลำบาก การเป็นโสดอยู่คนเดียวไม่มีพันธะอะไรกับใครเป็นเรื่องที่น่าจะสบายกว่ากันเยอะ

ความเป็นแม่ที่สังคมคาดหวังจึงออกจะดูสวนทางกับวิถีชีวิตของผู้หญิงหลายๆ คนในเวลานี้และดูเหมือนว่าพวกเธอก็เมินที่จะทำตัวตามความคาดหวังของสังคมเช่นกัน

ในขณะที่ผู้หญิงอีกจำนวนหนึ่งไม่ได้เมินแต่อยากทำตัวให้เป็นที่คาดหวังของสังคมแต่ก็ไม่สามารถกระทำได้ และคงรู้สึกอึดอัดและกดดันที่ตนเองไม่ได้เป็น แม่สมดังความคาดหวังของสังคมและคงมีความทุกข์ใจอยู่ลึกๆ ด้วยเพราะอาจมีเหตุปัจจัยบางประการทำให้ไม่สามารถเป็นแม่ได้ เช่น เป็นหมัน ยังไม่มีใครมาเป็นสามีจนกระทั่งอายุมากเกินไป หรือบังเอิญมีสามีตอนอายุเลยวัยที่เหมาะสมจะมีบุตรไปแล้ว 

เราคงเริ่มเห็นภาพแล้วว่าความเป็นแม่ที่สังคมคาดหวังได้กดทับอิสรภาพและความรู้สึกของผู้หญิงอย่างไร

แทนที่เราจะมองผู้หญิงอย่างที่เธอเป็น มองเห็นความดี มองเห็นความไม่ดีอย่างปกติที่เธอเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่งซึ่งเป็นตัวตนที่แท้จริงของเธอ เรากลับมองเธอด้วยอาการปรุงแต่งพร้อมด้วยความคาดหวัง

เนื้อตัวของผู้หญิงไทยจึงดูเหมือนจะพะรุงพะรังไปด้วยความเป็นเปลือกที่เรียกว่า แม่ซึ่งผู้หญิงอาจจะทำตัวให้เป็นแม่ได้บ้างไม่ได้บ้าง พร้อมกันนั้นก็พะรุงพะรังไปด้วยความหมายเชิงลบเกี่ยวกับ ส้วมหน้าบ้าน หรือ ข้าวสารข้าวเปลือก  ผสมปนเปกันไป 

จะเป็นการดีกว่าหรือไม่หากเราจะมองผู้หญิงอย่างที่เธอเป็นเธอจริงๆ โดยปราศจากความคาดหวังว่าเธอต้องเป็นนั่นเป็นนี่อันเป็นการจำกัดอิสรภาพของเธอ ตัวผู้หญิงเองก็จะสามารถมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเธอชัดขึ้นว่าแท้จริงแล้วเธอก็ไม่ได้เป็นอะไรนอกจากเป็น มนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง หรือลึกไปกว่านั้นก็คือเธอเป็นเพียง ก้อนธรรมชาติก้อนหนึ่งที่มาประชุมรวมกัน

            หากเธอมีลูกแล้วทำหน้าที่แม่ได้ดีก็ถือว่าเธอทำหน้าที่ของความเป็นมนุษย์ที่ดี แต่ถ้าหากเธอมีลูกแล้วไม่อาจทำหน้าที่เป็นแม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเป็นแม่ที่ไม่ดี หรือหากเธอไม่ได้มีลูก ไม่ได้แสดงบทบาทความเป็นแม่ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ไม่สมบูรณ์ เพราะอย่างน้อยเธอก็เป็นมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง

และบางทีเราจะได้เห็น ผู้หญิง ที่เป็น ตัวตนจริงๆ ของเธอที่ไม่ได้เกิดจากการเสแสร้งปรุงแต่งโดยความคาดหวังของสังคม ได้มองเห็น แม่ ที่เป็น แม่จริงๆ ที่ไม่ได้เกิดจากการเสแสร้งปรุงแต่งจากความคาดหวังของสังคมเช่นกัน 

          เมื่อนั้นเราจะได้ไม่ผิดหวังไปกับ แม่กำมะลอ เพราะมันเป็นเพียงเปลือกที่เราและสังคมต่างก็ร่วมกันสร้างมันขึ้นมาแค่นั้นเอง.

.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น